คลอโรพลาสต์ (chloroplast) เป็นพลาสติดที่มีสีเขียวพบเฉพาะในเซลล์พืช
และสาหร่ายเกือบทุกชนิด พลาสติคมีเยื่อหุ้มสองชั้น
ภายในโครงสร้างพลาสติคจะมีเม็ดสีหรือรงควัตถุบรรจุอยู่ ถ้ามีเม็ดสีคลอโรฟิลล์(chlorophyll)
เรียกว่า คลอโรพลาสต์ (pastid) ชนิดอื่น ๆ นอกจากคลอโรพลาสต์ได้แก่ โครโมพลาสต์ (chromoplast) เป็นพลาสติดที่บรรจุเม็ดสีชนิดต่าง ๆ เช่น ไม่มีเม็ดสีเรียกว่า
ลิวโคพลาสต์ (leucoplast) ทำหน้าที่เป็นแหล่งเก็บสะสมโปรตีนหรือเก็บสะสมแป้ง หน้าที่สำคัญของคลอโรพลาสต์ คือ การสังเคราะห์ด้วยแสง
(photosynthesis) โดยแสงสีแดง และแสงสีน้ำเงิน
เหมาะสมต่อการสังเคราะห์ด้วยแสงมากที่สุด ภายในมีโครงสร้างคล้ายถุงแบน ๆ
มีเยื่อหุ้ม เรียกว่า ไทลาคอยด์ (thylakoid) และไทลาคอยด์ จะเรียงซ้อนกันเป็นตั้ง
เรียกว่า กรานุม (granum) แต่ละกรานุมมีโครงสร้างเชื่อมต่อถึงกัน บนไทลาคอยด์มีสารสีที่ใช้ในกระบวนการ สังเคราะห์ด้วยแสง เช่น คลอโรฟีลล์
แคโรทีนอยด์ และมีของเหลวที่เรียกว่า สโตรมา อยู่รอบไทลาคอยด์ ในสโตรมามีเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง
แวคิวโอล ( vacuole) คือ ถุงบรรจุสาร เป็นออร์แกเนลล์ที่มีลักษณะเป็นถุง มีเมมเบรนที่เรียกว่า โทโนพลาสต์ (tonoplast) ห่อหุ้ม ภายในมีสารต่าง ๆ บรรรจุอยู่ โดยทั่วไปจะพบในเซลล์พืชและเซลล์สัตว์ชั้นต่ำ ในสัตว์ชั้นสูงไม่ค่อยพบ แวคิวโอล แบ่งออกเป็น 3 ชนิด คือ 1. คอนแทร็กไทล์แวคิวโอล( contractile vacuole) ทำหน้าที่รักษาสมดุลของน้ำ พบในเซลล์ อะมีบา พารามีเซียม 2. ฟูดแวคิวโอล ( food vacuole) บรรจุอาหารที่รับมาจากนอกเซลล์เพื่อย่อยสลายต่อไป พบใน เซลล์เม็ดเลือดขาวและสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว 3. แซบแวคิวโอล ( sap vacuole) พบในเซลล์พืช ตอนอายุน้อย ๆ มีจำนวนมาก แต่เมื่ออายุมากเข้าจะรวมเป็นถุงเดียวขนาดใหญ่ มีหน้าที่สะสมสาร เช่น สารสี ไอออน น้ำตาล สารพิษ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น